MEMBER
บทความ
- ความงามทั่วไป
- ดูแลผิวพรรณ
- ผิวหนัง
- ฝ้า-กระ
- ลดน้ำหนัก
- ศัลยกรรมความงาม
- สุขภาพ-งานวิจัย
- หมวดสิว
- เก็บมาอยากให้อ่านกัน
- เวชศาสตร์ความงาม
- เวชศาสตร์ชะลอวัย
- เส้นผม

L-Carnitine บทบาทอาหารเสริม สำหรับลดน้ำหนัก
ปัญหาโรคอ้วน หรือน้ำหนักมากกว่ามาตรฐาน (BMI) ส่วนหนึ่งมาจากไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป โดยมักจะสะสมในรูปของเนื้อเยื่อไขมัน (Adipose tissue) จึงทำให้สัดส่วนรูปร่างผิดไปไม่สวยงาม นอกจากนี้ไขมันที่สะสมในเส้นเลือดที่สูงก็เป็นสาเหตุแห่งการเกิดเส้นเลือดอุดตัน หรือผนังเส้นเลือดแข็งตัว เป็นอันตรายต่อหัวใจ และสมอง
แอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) เป็นกรดอะมิโนตัวหนึ่ง ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการป้องกันการสะสมของไขมัน และลดปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ โดยอาศัยกลไกการทำงานของ กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) ที่เกี่ยวข้องกับการสลายไขมันให้เป็นพลังงาน (ATP) โดย กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) จะทำหน้าที่เป็น protein carrier ที่จะพากรดไขมันอิสระ ( free fatty acid) ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ไปยัง ไมโตรคอนเดรีย ซึ่งจะทำหน้าที่เผาผลาญกรดไขมัน ดังกล่าวให้เป็นพลังงาน จึงทำให้ไขมันลดลง และทำให้น้ำหนักลดลงได้ในที่สุด
ภาวะปกติร่างกายจะสามารถสร้าง กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) ได้เอง จาก กรดอะมิโน L-lysine และกรดอะมิโน Methionine โดยมีวิตามินซี วิตามินบี6 ไนอะซิน และธาตุเหล็กเป็นตัวเร่งปฏิกริยาในการสร้าง ดังนั้นถ้าการขาดปัจจัยองค์ประกอบตัวใดตัวหนึ่ง จึงทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาด กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ขบวนการเผาผลาญไขมันให้กลายเป็นพลังงานเกิดลดลง หรือบกพร่องได้ จึงทำให้ บางคนนิยมรับประทาน กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) เป็นอาหารเสริม
ขนาดที่แนะนำ ในการรับประทาน กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) คือ วันละ 500-2,000 มก.ต่อวัน แต่อย่าลืมว่า ไขมันที่สะสมอยู่ หรือ การป้องกันไขมันใหม่ แล้วจะย่อยสลายให้เป็นพลังงานโดยอาศัย กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) มากน้อยเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้ พลังงานของกล้ามเนื้อลาย ดังนั้นในผู้ที่รับประทาน กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน(L-carnitine) จึงควรออกกำลังกาย หรือจัดโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก ควบคู่ไปด้วย จึงจะได้ประโยชน์จากอาหารเสริมชนิดนี้
เรียบเรียงและค้นคว้าโดย..นพ.จรัสพล รินทระ