MEMBER
บทความ
- ความงามทั่วไป
- ดูแลผิวพรรณ
- ผิวหนัง
- ฝ้า-กระ
- ลดน้ำหนัก
- ศัลยกรรมความงาม
- สุขภาพ-งานวิจัย
- หมวดสิว
- เก็บมาอยากให้อ่านกัน
- เวชศาสตร์ความงาม
- เวชศาสตร์ชะลอวัย
- เส้นผม

เทคนิคการยกกระชับผิวหน้า(Facelift) -Update!
โครงสร้างของผิวหน้าและผิวพรรณของแต่ละคน เมื่อระยะเวลาผ่านไป ก็ย่อมมีการเสื่อมตามวัย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป จะพบว่าคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างของผิวหนังในการทำให้เต่งตึง กระชับได้เริ่มลดน้อยลง จึงทำให้เกิดมีปัญหาริ้วรอย และการหย่อนคล้อยของผิวหน้าตามมา โดยเมื่อยิ่งอายุมากขึ้นเท่าใด ภาวะหย่อนคล้อยของผิวหน้าก็จะยิ่งมากขึ้น จากที่แค่มีแค่ริ้วรอยที่หน้าผาก ตีนกา ร่องแก้ม อาจจะลุกลามมากขึ้น เช่น หางตาเริ่มตก แก้มหย่อน ร่องแก้มลึก ร่องปากเริ่มตกลง และ ผิวหน้าโดยรวมก็ย่อนคล้อยมากขึ้น ลามมาถึงบริเวณคอ ซึ่งจะยิ่งเห็นได้ชัดเมื่ออายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
การไม่ยอมแพ้แก่สังขาร ทำให้มนุษย์สรรหาสารพัดวิธีการในการแก้ไขและฟื้นฟูผิวหน้าโดยรวม ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าปกติ เช่น การใช้ครีมสารพัดยี่ห้อ อาหารเสริมบำรุงผิวพรรรณ การฉีดโบทอกซ์ลดริ้วรอยต่างๆ การฉีดเติมสารเติมเต็ม(Filler agents) ตามร่องแก้ม ริ้วรอย การทำศัลยกรรมต่างๆ ฯลฯ
การยกกระชับผิวหน้า( Facelift) ก็จัดเป็นวิธีการหนึ่งที่เป็นที่นิยมในการทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์วัยลง เพราะนอกจากจะทำให้หลายส่วนบนใบหน้าที่เริ่ม หย่อนคล้อย ได้ยกกระชับเต่งตึงขึ้นแล้ว ยังช่วยทำให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลงได้อีกด้วย เราแบ่งการยกกระชับผิวหน้า( Facelift) ออกได้เป็น 3 หลักการใหญ่ๆ ดังนี้
1. การยกกระชับผิวหน้าโดยการผ่าตัด(Surgical Facelift) – จัดเป็นการยกกระชับผิวหน้าที่ถือว่าเป็นที่นิยมมานานหลายทศวรรษ เพราะเปรียบเสมือนการยกเครื่อง ครั้งใหญ่ของใบหน้า โดยการกรีดผิวหนังบริเวณหนังศีรษะหรือขมับ แล้วตัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยไม่ต้องการออกไป แล้วดึงรั้งผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้น แน่นอน! ย่อมเป็นการยกกระชับผิวหน้าที่ได้ผลแน่นอน เห็นผลไว แต่ก็ทำให้ท่านต้องมีบาดแผลหลังผ่าตัด ต้องเจ็บตัว ต้องพักฟื้น และค่าใช้จ่ายก็สูงมาก ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญ ในการทำศัลยกรรมตกแต่งอย่างมาก ผลที่ได้จึงจะพอใจและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ที่สำคัญไม่สามารถจะทำได้บ่อยๆ ดังนั้นการทำ การยกกระชับผิวหน้าโดยการผ่าตัด(Surgical Facelift) จึงมักจะเป็นทางเลือกสุดท้าย และมักจะนิยมทำกันในคนที่อายุมากๆ แล้วเท่านั้น ( ปัจจุบันแพทย์มักจะแนะนำให้ทำเมื่ออายุมากกว่า 60-70 ปี )
การยกกระชับผิวหน้าการผ่าตัดเย็บชั้น SMAS
2. การยกกระชับผิวหน้ากึ่งผ่าตัด(Semi-Surgical Facelift) – จากผลไม่พึงประสงค์ของการยกกระชับผิวหน้าด้วยการผ่าตัด ทำให้ทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาการยกกระชับผิวหน้าให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ได้ผลดีพอควร ผลข้างเคียงน้อยกว่าแบบแรก นั่นก็คือ การยกกระชับผิวหน้าด้วยไหม ไหมละลาย จัดเป็นกรรมวิธีใหม่ที่นำมายกกระชับหน้าที่ได้ผลดี รวดเร็ว ไหมที่ใช้ เป็นไหมชนิด Polydioxanone(PDO) ซึ่งเป็นไหมละลายที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ซึ่งตัวเส้นไหมละลายได้มีการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย ผ่านอย.เรียบร้อยแล้ว ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับจะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง ซึ่งการยกกระชับด้วยไหมละลาย กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะเห็นผลทันทีหลังทำ แต่อยู่ได้ 8-12 เดือน ดังได้เขียนบทความไว้แล้ว
ตัวอย่างก่อน-หลังการยกกระชับหน้ารูปแบบต่างๆ ด้วยไหมละลาย
3. การยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด(Non-Surgical Facelift) -จัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการยกกระชับผิวหน้า ที่ถือว่าเจ็บตัวน้อยสุด ผลข้างเคียงน้อยสุด แต่ก็ได้ผลดีพอสมควร ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายวิธีในการยกกระชับผิวหน้า ซึ่งหลายท่านอาจจะเคยมีประสบการณ์กันมาแล้ว ซึ่งจะไล่เรียงดังนี้
3.1 การนวดหน้า ( Facial Massage) : จัดเป็นการยกกระชับผิวหน้าแบบอนุรักษ์นิยม คือมีมาแต่โบราณกาล เห็นได้บ่อยในร้านเสริมสวย สปา คลินิกความงามทั้งหลาย โดยการใช้มือคนเราในการนวดผิวหน้า อาจจะใช้ครีมหรือตัวยา สมุนไพรต่างๆ ร่วมด้วย การกดจุด จัดเป็นการยกกระชับผิวหน้าแบบอ่อนๆ ที่ได้ผลน้อยที่สุด ราคาถูก เหมาะกับผิว ที่ไม่ได้หย่อนคล้อยมากนัก (อายุน้อยกว่า 30 ปี) และก็ต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หยุดทำเมื่อไหร่ ผิวหน้าก็คืนสภาพกลับมาเหมือนเดิม
3.2 Phonophoresis/Iontophoresis: จัดเป็นการยกกระชับผิวหน้าแบบอ่อนๆ ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ได้ผลพอควร เหมาะกับผิวที่ไม่ได้หย่อนคล้อยมากนักเช่นกัน (อายุน้อยกว่า 30 ปี) เป็นหลักการที่ใช้คลื่นความถี่สูงหรือการแตกประจุของตัวยา ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว แต่ต้องทำบ่อยๆ เป็นประจำหลายครั้ง มิฉะนั้นผิวหน้าก็จะกลับมาเหมือนเดิมได้
3.3 การยกกระชับผิวหน้าด้วยเลเซอร์คลื่นแสง(IPL): ก็จัดเป็นการยกกระชับผิวหน้า โดยใช้คลื่นแสงความถี่จำเพาะ ไปกระตุ้นชั้นหนังแท้ให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา จึงทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับ ได้ผลเร็วและพอควร ไม่เจ็บตัวมากนัก ไม่มีผลข้างเคียงใด แต่ก็ต้องทำหลายครั้ง และก็ได้ผลกับผิวที่ไม่ได้หย่อนคล้อยมากนักเช่นกัน (อายุน้อยกว่า 40 ปี)
3.4 การยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นความถี่สูง (Monopolar Radiofrequency:RF):เป็นวิทยาการทันสมัยที่มีการพัฒนามาอีกระดับหนึ่ง ได้เริ่มมีการใช้แพร่หลายในช่วงปี ค.ศ. 2002 โดยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเป็นตัวควบคุมปริมาณของพลังงาน โดยจะสร้างความร้อนให้แก่คอลลาเจนที่อยู่ภายใต้ผิวหนังในขณะเดียวกันจะให้ความเย็นแก่ผิวชั้นนอก การเกิดความร้อนสม่ำเสมอเช่นนี้ จะทำให้โครงสร้างอยู่ภายใต้ผิวหนังมีการกระชับตัวที่ดีขึ้นในทันทีซึ่งภายในระยะเวลาต่อมาคคอลลาเจนจะถูกสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อในการกระชับผิวเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์ที่ได้คือการมีสภาพผิวที่แข็งแรง กระชับ นุ่มนวล และดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งเครื่องมือในกลุ่มนี้ก็มีหลายตัว เช่น Thermage, Exillis Elite ฯลฯ ซึ่งก็เป็นทีนียมเช่นกัน โดยเฉพาะ Exilis Elite เพราะค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างไม่สูงมาก เห็นผลทันที ไม่เจ็บมากเหมือน Thermage และผลลัพธ์ก็ใกล้เคียงกัน และอยู่ได้นานมากกว่า10-12 เดือน
ตัวอย่างการยกระชับหน้าด้วย Exilis Elite
3.5การยกกระชับผิวหน้าด้วยเครื่อง Ulthera : เทคโนโลยีชั้นสูง ในการรักษาปัญหาหย่อนคล้อยของผิวหน้า จากสาเหตุความเสื่อมหรือความอ่อนแอของชั้น SMAS ซึ่งเทคโนโลยีอื่น ๆในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ยกเว้นการทำศัลยกรรม ถือเป็นการยกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด ที่ได้ผลสุด ลงลึกสุดโดยแพทย์สามารถเห็นสภาพผิวหนังที่กำลังรักษาผ่านหน้าจอเครื่องตลอดเวลา ผ่านหน้าจอของเครื่อง ( SEE and TREAT ) นำมาซึ่งการรักษาที่แม่นยำสูง และได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่าวิธีอื่นๆ และอยู่ได้นาน 12-18 เดือน เหมาะกับปัญหาหย่อนคล้อยมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงและเจ็บ ต้องทายาชาหรือฉีดยาชาก่อนทำ และได้ถือว่า Ulthera คือ Gold Standard Treatment สำหรับการยกกระชับผิวหน้าที่ลงลึกสุด เมื่อเทียบกับเครื่องมือหรือวิธีการอื่น ๆ และถือว่า Ulterha คือเครื่องมือชนิดเดียวที่ US-FDA ให้การรับรองผลว่าได้ผลจริง เพียงเครื่องเดียวในปัจจุบัน
ตัวอย่างการยกระชับหน้าด้วย Ulthera
3.6 การยกกระชับผิวหน้าด้วยการฉีด Botox : จัดเป็นวิทยาการอีกทางเลือกในปัจจุบันที่นำมาทำการยกกระชับผิวหน้า Botox คือ Botulinum toxin ชนิด A ซึ่งเป็นผงปราศเชื้อของ แบคทีเรีย Clostridium botulinum Hall strain มาผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ แล้วนำมาผสมน้ำเกลือ แล้วฉีดเข้าชั้นผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ สรรพคุณของ Botox ก็คือทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดการหดเกร็ง ดังนั้นการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ ส่วนหนึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อบนใบหน้า บางมัดที่เกี่ยวข้องกับการดึงรั้ง (Depressor muscles) ทำงานมากกว่ากล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการยกกระชับ(Levator muscles) จึงดึงใบหน้าโดยรวมให้คล้อยต่ำตามแรงดึงดูดของโลก การฉีด Botox ก็คือการฉีดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการดึงรั้ง (Depressor muscles)ให้อ่อนแรงลง แล้วทำให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการยกกระชับ(Levator muscles) ทำงานได้มากกว่า จึงดึงใบหน้าให้ยกขึ้นชนะแรงโน้มถ่วงของโลก ผิวหน้าก็จะกลับมาตึงกระชับได้ การยกกระชับผิวหน้าด้วยการฉีด Botox จัดเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากราคาถูก ไม่เจ็บตัวมากนัก ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ผลข้างเคียงน้อยมาก ที่สำคัญ ได้ผลเร็วภายใน 2 อาทิตย์ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหน้าเรียวเล็กลง แก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาตก ทำให้ทุกส่วนเต่งตึงได้แม้แต่ในบริเวณลำคอ แต่ก็มีข้อเสียคือต้องฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
ตำแหน่งในการฉีด Botox เพื่อยกกระชับผิวหน้า
ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังการยกกระชับผิวหน้าด้วยการฉีด Botox
3.6 การยกกระชับผิวหน้าด้วยการฉีด Fillers : จะพบว่าเมื่ออายุมากขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยเปรียบเทียบระหว่าง แม่ลูก 2 คู่นี้ ที่มีความคล้ายคลึงกันมาก ดังรูป จะพบว่า ร่องแก้มลึกขึ้น โหนกแก้มห้อย ร่องตาลึก คางห้อย ฯลฯ
ซึ่งสาเหตุที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ เกิดจากการที่คอลลาเจนที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น (Volume loss) นั่นเอง ดังนั้นถ้าเราสามารถที่จะเติมฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเติมเต็มเข้าไปทดแทนคอลลาเจน ที่หายไปปัญหาด้านบนก็น่าจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้ แถมดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง เหมือนกับการยกกระชับด้วยโบทอกซ์ แต่ก็อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน ก็อาจจะต้องเติมซ้ำ หรืออาจจะมา Touch up กรณีบางส่วนเริ่มหาย
เทคนิคการเติมฟิลเลอร์ 8 จุด เพื่อยกกระชับหน้า
ตัวอย่างการเติมฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับหน้า
เห็นมั้ยหละครับว่า มนุษย์เราพยายามที่จะเอาชนะสังขารตามวัยกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งศาสตร์และศิลป์ จากระบบภายในร่างกายและระบบภายนอกร่างกาย การพัฒนาการด้านการแพทย์ได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว ความรู้บางอย่างในปัจจุบันหรืออดีต อาจจะเป็นที่นิยมในช่วงหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ในอนาคตกาล อาจจะมีวิธีการใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย ดังนั้นขออย่าให้เราได้ยึดติดมากนัก ทำใจไว้เผื่อการเปลี่ยนแปลงในทุกอย่าง ทุกด้านด้วยนะครับ
เรียบเรียงและค้นคว้าโดยนพ.จรัสพล รินทระ
Update ข้อมูลล่าสุด…………..24 August ,2014
วีดีโอสาธิต การดึงหน้าด้วยการผ่าตัด
วีดีโอสาธิต การดึงหน้าด้วยการทำ Ulthera ผลพอๆ กับการผ่าตัดดึงหน้า
วีดีโอสาธิต การยกกระชับหน้าด้วย Monopolar RF (Exilis Elite)