MEMBER
บทความ
- ความงามทั่วไป
- ดูแลผิวพรรณ
- ผิวหนัง
- ฝ้า-กระ
- ลดน้ำหนัก
- ศัลยกรรมความงาม
- สุขภาพ-งานวิจัย
- หมวดสิว
- เก็บมาอยากให้อ่านกัน
- เวชศาสตร์ความงาม
- เวชศาสตร์ชะลอวัย
- เส้นผม

เชื้อโรคแอนแทรกซ์(Anthrax) ว่าที่อาวุธชีวภาพในสงครามอนาคต
โรคแอนแทรกซ์(Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อของสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์กินหญ้า เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ที่รู้จักกันแต่โบราณกาล มีการบันทึกแรกสุด ที่พบในประเทศอียิปต์ และมีการตรวจพบเชื้อนี้ครั้งแรก จากกล้องจุลทรรศน์ ในปี ค.ศ. 1877 แต่ที่ฮือฮาและน่ากลัวที่สุดก็คือ เชื้อโรคนี้อาจจะเป็น อาวุธสงครามเชื้อโรคได้ในอนาคต หลังมีการถล่มตึกเวิลด์เทรดของอเมริกา เมื่อกลางปี 2001 คงไม่สายเกินไปที่จะนำเรื่องนี้มานำเสนอ
เชื้อ Bacillus anthracis จากกล้องจุลทรรศน์
โรคแอนแทรกซ์(Anthrax) เกิดจากการติดเชื้อ Bacillus anthracis ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวก สร้างสปอร์ภายในเซลล์ ( ดูภาพประกอบที่ 1) โดย อยู่ในรูปสปอร์ได้เป็นเวลานานหลายปี และมีความทนทานต่อความร้อนแห้งที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ได้นานถึง 1-3 ชั่วโมง และความร้อนที่มีไอน้ำได้ถึง 5 นาทีที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
การติดต่อ: มนุษย์สามารถรับเชื้อ Bacillus anthracis โดยได้รับสปอร์เข้าสู่ร่างกาย ได้ 3 วิธีดังนี้
- ทางการสัมผัสโดยตรงกับเชื้อโรค จากซากสัตว์ที่ตายจากโรคนี้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ เช่น แปรงโกนหนวด อานม้า ผ้าคลุมของม้า หนังสัตว์ ขนสัตว์
- ทางเดินอาหาร โดยการรับประทานเนื้อสัตว์ที่เป็นโรคนี้
- ทางลมหายใจ โดยการสูดดมสปอร์ของเชื้อโรคโดยบังเอิญ เช่นที่เกิดขึ้นกับคนไข้ในอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้
ลักษณะอาการทางคลินิกที่ตรวจพบ
ตัวอย่างคนไข้ติดเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ผิวหนัง
- โรคแอนแทรกซ์ผิวหนัง( Cutaneous anthrax): โดยเชื้อโรคจะสัมผัสกับผิวหนังที่ถลอก หรือมีบาดแผล พบบ่อยบริเวณแขน และมือ ซึ่งใช้ในการชำแหละสัตว์ หรืออาจพบที่ต้นคอ หน้าอก มีระยะฟักตัว 1-7 วัน แผลมีลักษณะจำเพาะ คือมีลักษณะกลมขนาดเส้นผ่าศูนต์กลาง 1-3 เซนติเมตร เป็นแผลคลุมด้วยสะเก็ดดำล้อมรอบ (eschar) คือมีอาการบวมนุ่มๆ แต่กดไม่บุ๋ม ขอบแข็ง ตรงกลางมีรอยแผลไหม้ดำ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้รอยโรคมีอาการอักเสบและกดเจ็บ (ดูภาพประกอบที่ 2 )
- โรคแอนแทรกซ์ของระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal anthrax) มักพบจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนสปอร์เชื้อโรค มกมีอาการไข้ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร อาจมีอาการปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งพบได้ประมาณ 20-60% และช๊อคเสียชีวิต ภายใน 2-5 วันหลังจากมีอาการที่รุนแรง
- โรคแอนแทรกซ์ของระบบทางเดินหายใจ ( Inhalational anthrax,Woolsorter’s disease) มีความสำคัญมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในอเมริกา เนื่องจากผู้ก่อการร้ายใช้สปอร์ของเชื้อ Bacillus anthracis โรยตามจดหมายและพัสดุภัณฑ์ ผู้ป่วยได้รับการสูดหายใจเอาสปอร์เข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยจะมีอาการทางคลินิกได้ 2 ระยะ ก็คือ ระยะแรกใน 1-2 วัน อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว และอาจปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และไอแห้งๆ อาจมีอาการแน่นหน้าอก ตรวจร่างกายมักไม่พบความผิดปกติ อาการอาจหายๆไปภายใน 2-3 วัน หรืออาจจะมีอาการมากขึ้นหลังจากนั้นอีก 2-4 วัน โดยทำให้เกิดการติดเชื้อทางระบบหายใจรุนแรง หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ ขาดออกซิเจน ตัวเขียว และอาจถึงแก่ชีวิตได้ถึง 90% ภายใน 24-36 ชั่วโมง โดยเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และเลือดออกในสมอง ถ้าทำการรักษาไม่ทันท่วงที
การรักษาและป้องกัน:
– โดยทั่วไปเชื้อโรคแอนแทรกซ์(Anthrax) จะไวต่อยากลุ่มเพนนิซิลิน กรณีโรคแอนแทรกซ์(Anthrax) ที่ผิวหนังการให้ยารับประทานด้วย PenV 250 มก.ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลานาน 5-7 วันก็ทำให้เชื้อโรคหมดไปได้ใน 24 ชม.แรกและอาการยุบบวมสะเก็ดหลุดอีก 3-7 วันต่อมา
– แต่ในกรณีที่เป็นรุนแรง หรือติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือด อาจจะต้องฉีดยาเข้าเส้นแทน และนอนรพ.
– วัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์(Anthrax) มักจะฉีดให้แก่คนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เช่น คนที่ทำงานเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ โดยประกอบด้วย การฉีด 6 ครั้ง ใต้ผิวหนังสัปดาห์ที่ 0,2,4,6,12,18 และกระตุ้นปีละครั้ง – โรคแอนแทรกซ์(Anthrax) ในประเทศไทยเป็นโรคที่ต้องแจ้งความต่อข่ายงานเฝ้าระวังโรค กรณีที่ตรวจพบ
เรียบเรียงและค้นคว้าใหม่โดย นพ.จรัสพล รินทระ …ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด…8 August,2005